งานต่อมาในทัสกานี ของ โดเมนีโก กีร์ลันดาโย

อาจจะเป็นภาพเหมือนตนเองในภาพ "การชื่นชมของแมไจ" ค.ศ. 1488 (ออสเปดาเล เดกลิ อินโนเซนติ, ฟลอเรนซ์

เมื่อกลับมาฟลอเรนซ์ในปี ค.ศ. 85 กีร์ลันดาโยก็เขียนภาพชุด จิตรกรรมฝาผนังที่ชาเปลซาสเซ็ตติ (Sassetti Chapel) ในวัดซานตาทรินิตา สำหรับนายธนาคารและผู้อุทิศ ฟรานเชสโก ซาสเซ็ตติ (Francesco Sassetti) ผู้เป็นผู้จัดการผู้มีอำนาจของธนาคารเมดิชิที่เจนัว ตำแหน่งที่ จิโอวานนิ ทอร์นาบุโอนิ (Giovanni Tornabuoni) ผู้อุปถัมภ์คนต่อมาของกีร์ลันดาโยรับหน้าที่แทน กีร์ลันดาโยเขียนภาพหกฉากจากชีวประวัติของนักบุญฟรานซิสแห่งอาซิซิรวมทั้งฉาก "นักบุญฟรานซิสได้รับการอนุมัติ "กฎของนักบุญฟรานซิส" จากพระสันตะปาปาโฮโนริอุสที่ 3"; "ความตายและงานศพของนักบุญฟรานซิส" และ "นักบุญฟรานซิสชุบชีวิต" ซึ่งเป็นภาพนักบุญฟรานซิสชุบชีวิตลูกของตระกูลสปินิที่ตกหน้าต่างตาย ฉากแรกมีภาพเหมือนของลอเรนโซ เดอ เมดิชิในภาพและฉากที่สามมีภาพเหมือนของตัวกีร์ลันดาโยเองในภาพ ภาพเหมือนตนเองอื่นๆ ก็มีที่วัดซานตามาเรียโนเวลลา และในภาพ "การชื่นชมของแมไจ" ที่โรงเลี้ยงเด็กกำพร้า ออสปิดาเล เดกลิ อินโนเซนติ (Ospedale degli Innocenti) ฉากแท่นบูชา "การชื่นชมของเด็กเลี้ยงแกะ" จากชาเปลซาสเซ็ตติปัจจุบันตั้งอยู่ที่สถาบันวิจิตรศิลป์แห่งฟลอเรนซ์

ทันทีที่ได้รับงานกีร์ลันดาโยก็ได้รับคำสั่งให้บูรณะจิตรกรรมฝาผนังภายในบริเวณร้องเพลงสวดในวัดซานตามาเรียโนเวลลาซึ่งเป็นชาเปลของตระกูลริชชิแต่ทอร์นาบุโอนิและพี่น้องในตระกูลเป็นผู้ที่มีอำนาจมากกว่าจึงได้เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการบูรณะทั้งหมดแต่มีข้อแม้—ปัญหาการรักษาตราประจำตระกูลของตระกูลริชชิซึ่งกลายมาเป็นเรื่องฟ้องร้องที่ออกจะชวนหัว จิตรกรรมฝาผนังภายในชาเปลทอร์นาบุโอนิเขียนโดยกีร์ลันดาโยกับผู้ช่วยอีกหลายคน เขียนเป็นสี่ตอนบนผนังสามด้าน หัวเรื่องหลักที่เขียนก็เป็นประวัติของพระแม่มารีและนักบุญจอห์นแบ็พทิสต์ ซึ่งเป็นภาพเขียนที่มีความสำคัญไม่แต่ทางศิลปะแต่เป็นภาพเขียนที่มีภาพเหมือนของบุคคลสำคัญๆ ในสมัยนั้นหลายคน ซึ่งเป็นลักษณะการเขียนที่กีร์ลันดาโยมีความเชี่ยวชาญ

ภาพชีวิตของพระแม่มารีภายในชาเปลทอร์นาบุโอนิเป็นภาพที่แสดงให้เห็นชีวิตภายในเรือนของผู้ดีฟลอเรนซ์ในสมัยนั้นมากกว่าที่จะเป็นภาพที่แสดงเหตุการณ์มหัศจรรย์ทางคริสต์ศาสนา

ภาพเขียนชุดนี้มีภาพเหมือนของสมาชิกจากตระกูลทอร์นาบุโอนิไม่ต่ำกว่า 21 ภาพ ในภาพ "เทวดาปรากฏตัวต่อแซ็คคาไรส์" มีภาพเหมือนของ มาร์ซิลิโอ ฟิชิโน (Marsilio Ficino) นักการเมือง; ภาพ "นักบุญแอนน์และนักบุญเอลิซาเบธ" (Salutation of Anna and Elizabeth) มีภาพเหมือนของจิโอวานนา ทอร์นาบุโอนิซึ่งเดิมจอร์โจ วาซารีเชื่อว่าเป็นภาพจิเนฟรา เด เบนชิ (Ginevra de' Benci); ในภาพ "ขับนักบุญโยฮาคิมจากวัด" มีภาพเหมือนของเซบาสเตียโน มาอินาร์ดิและอเลสซิโอ บาลโดวิเน็ตติ (Alessio Baldovinetti) ภาพหลังนี้อาจจะเป็นภาพเหมือนของพ่อของกีร์ลันดาโย ชาเปลทอร์นาบุโอนิบูรณะเสร็จในปี ค.ศ. 1490 ฉากแท่นบูชาอาจจะทำโดยผู้ช่วยของน้องชายสองคนของกีร์ลันดาโยดาวิเด และ เบเนเด็ตโต ส่วนหน้าต่างทำตามแบบที่ออกโดยกีร์ลันดาโยเอง

วานชิ้นเด่นๆ ของกีร์ลันดาโยก็ได้แก่ฉากแท่นบูขา "นักบุญเซโนเบียส นักบุญจัสตัส และนักบุญอื่นๆ ชื่นชมพระแม่มารี" (Virgin Adored by Saints Zenobius, Justus and Others) ที่เขียนให้วัดเซนต์จัสตัสที่ในปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ยูฟิซิที่ฟลอเรนซ์; ภาพ "พระเยซูผู้ทรงเดชานุภาพกับโรมอลด์และนักบุญอื่นๆ" (Christ in Glory with Romuald and Other Saints) ที่โวลเทอรา; "การชื่นชมของแมไจ" (ค.ศ. 488) ที่โรงเลี้ยงเด็กกำพร้า ออสปิดาเล เดกลิ อินโนเซนติซึ่งอาจจะถือว่าเป็นงานจิตรกรรมแผงชิ้นที่ดีที่สุดของกีร์ลันดาโย; และ "พระแม่มารีเยี่ยมเอลิซาเบธ" (Visitation) ปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ซึ่งเป็นงานลงวันที่สุดท้ายที่สุดของงานของกีร์ลันดาโย ในปีค.ศ. 1491 กีร์ลันดาโยไม่ค่อยเขียนภาพเปลือย แต่ภาพที่เขียนก็ได้แก่ "วัลคันและผู้ช่วยโยนสายฟ้า" (Vulcan and His Assistants Forging Thunderbolts) ที่เขียนให้ลอเรนโซที่ 2 ดยุคแห่งเออร์บิโน (Lorenzo II de' Medici, Duke of Urbino) แต่ภาพนี้สูญหายไป นอกจากงานเขียนแล้วก็ยังมีงานโมเสกที่ทำก่อน ค.ศ. 1491—โดยเฉพาะชิ้นที่ชื่อว่า "การประกาศของเทพ" ที่อยู่หน้าประตูมหาวิหารฟลอเรนซ์